วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พระอรรธนารีศวร




        พระอรรธนารีศวร เป็นปางหนึ่งของพระศิวะ ซึ่งมีทั้งเพศชายและเพศหญิงรวมอยู่ในร่างเดียวกัน ซึ่งเป็นกำลังเสริมของเพศคู่ อันจะนำมาซึ่งความสมบูรณ์และการถือกำเนิดของชีวิตใหม่
        คำว่า อรรธนารีศวร มาจากคำ 3 คำ ได้แก่ อรรธ (ครึ่ง) + นารี (ผู้หญิง) + อิศวร (พระผู้เป็นเจ้า) หมายถึง เทพเจ้าผู้เป็นสตรีครึ่งหนึ่งนั่นเอง บางครั้งก็เรียกสั้นๆว่า อรรธนารี (Ardhanari) ผู้ชายทางซีกขวาคือ พระศิวะ ส่วนผู้หญิงทางซีกซ้ายคือ พระแม่ปารวตี ชายาของพระองค์ โดยในที่นี้พระแม่ปารวตีเป็น ศักติ (Shakti) แปลว่า อำนาจหรือผู้ทรงไว้ซึ่งอำนาจของพระสวามี (ซึ่งในที่นี้คือ พระศิวะ)
        พระอรรธนารีศวรที่พบส่วนใหญ่มักจะอยู่ในท่ายืน 3 แบบ ได้แก่ อภังค์ (ยืนตรง) ตริภังค์ (ยืนเอียงสะโพกเล็กน้อย) และอติภังค์ (ยืนเอียงสะโพกมากเป็นพิเศษ) อย่างไรก็ดี หากเป็นภาพวาด ก็อาจจะมีท่าทางแบบอื่นอยู่บ้าง เช่น เดินอุ้มพระพิฆเนศ สัตว์ที่มักจะพบอยู่คู่กับพระอรรธนารีศวร ได้แก่ โคนนทิ ซึ่งเป็นพาหนะของพระศิวะ นอกจากนี้อาจจะมีเสือหรือสิงโตเนื่องจากเป็นพาหนะของพระปารวตีอีกด้วย

พระตรีมูรติ




        พระตรีมูรติ เป็นถึงเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะมีศักดิ์สูงสุดในศาสนาพราหมณ์ เนื่องจากเป็นการรวมกันของมหาเทพที่ยิ่งใหญ่ถึง 3 พระองค์ด้วยกัน คือ พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ ลำพังมหาเทพทั้ง 3 นี้ แต่ละพระองค์ก็ประทานพรแก่ผู้ทำความดีได้ทุกประการอยู่แล้ว การที่ทั้ง 3 ท่านได้มารวมพระวรกายกันเป็นหนึ่งเดียว ก็ยิ่งมีอานุภาพประทานพรได้กว้างและลึกยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ที่เข้าใจผิดพากันกล่าวกันว่า "พระตรีมูรติ" เป็นเพียงเทพเจ้าผู้ประทานความสมหวังในด้าน "ความรัก" เท่านั้นจึงถือเป็นการไม่ให้เกียรติ และเป็นการลบหลู่ ดูถูกเทวานุภาพของท่านเลยทีเดียว แท้จริงแล้วพระองค์มีพลังมากมายกว่าที่หลายๆคนคาดคิด หากขอพรด้วยความตั้งมั่นและประพฤติตนเป็นคนดีแล้ว พระตรีมูรติผู้ยิ่งใหญ่สามารถให้พรผู้ศรัทธาได้มากกว่าที่จะคาดถึงได้

พระแม่กาลี



พระแม่กาลี หรือ กากิลา (แปลว่า หญิงดำ) เป็นปางหนึ่งของพระอุมาเทวี มีกายสีดำสนิท มีลักษณะดุร้าย มี ๑๐ พระกร ถืออาวุธร้ายอยู่ในพระกรทั้งสิบนั้น แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก ที่ริมฝีปากมีเลือดไหลหยดเป็นทางยาว เครื่องประดับเป็นหัวกะโหลก มีงูใหญ่ร้อยคาดองค์ดั่งสังวาลย์
พระแม่กาลี มีอำนาจฤทธิ์ในการปราบปรามสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง มีเทวานุภาพอันแรงกล้า สร้างความวิบัติแก่เหล่าอสูรอย่างรุนแรง เด็ดขาด แฝงเร้นไว้ซึ่งความน่ากลัว ผู้บูชาพระแม่กาลีอย่างถูกต้องและเคร่งครัด พระแม่จะประทานความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ และอำนาจเหนือผู้อื่น พระแม่กาลี ยังมีพลังอำนาจในการขจัดคุณไสย ลบล้างไสยเวทย์ด้านมืด หากบุคคลใดถูกกระทำทางไสยศาสตร์ เมื่อผู้นั้นได้สวดบูชาอ้อนวอนต่อพระองค์ท่านแล้ว พระองค์ท่านก็มักให้พร ขจัดสิ่งอาถรรพ์ชั่วร้ายให้มลายหายไป
ผู้ใดกระทำการสวดบูชา สรรเสริญ และถวายเครื่องสังเวยแด่พระแม่กาลีเป็นประจำ พระองค์ท่านจะประทานความปลอดภัยมาสู่ผู้นั้น ทรงดลบันดาลให้เกิดความสันติผาสุกแก่ผู้ครองเรือนทั่วไป คุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุร้ายแรง

พระแม่ทุรคา



พระแม่ทุรคา หรือ พระศรีมหาทุรคาเทวี เป็นปางหนึ่งของ พระอุมาเทวี มีความหมายว่า "ผู้เข้าถึงได้ยาก" ไม่ว่าทั้งเทพเจ้า มนุษย์ อสูร แม้แต่พระศิวะ พระพรหม หรือพระวิษณุ ก็ไม่อาจสังหารอสูรที่ชื่อมหิษาสูรได้ มีเพียงหญิงสาวที่ไม่ได้เกิดอย่างธรรมชาติและเป็นหนึ่งในอำนาจทั้งหมดของจักรวาล ซึ่งก็คือพระแม่ทุรคา ซึ่งเกิดจากอำนาจทั้งปวงของเหล่าเทพเจ้า
พระแม่ทุรคานับว่าเป็นปางที่สำคัญและยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าปาง พระแม่กาลี มีความเหี้ยมหาญ แข็งแกร่ง มีพละกำลังมาก แต่ไม่ดุร้ายน่ากลัวเท่ากับปางพระแม่กาลี เมื่อบูชาพระแม่ทุรคาอย่างสม่ำเสมอ พระองค์จะประทานพรด้านความกล้าหาญ ชนะศัตรูรอบทิศ การมีบริวาร มีความยุติธรรม ตลอดจนการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
ในช่วงประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี จะมีการบูชาพระแม่ทุรคาเรียกว่า เทศกาลนวราตรีดูเซร่า มีการฉลองถึง ๙ วัน ๙ คืนด้วยกัน


วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พระสรัสวตี


        พระแม่สรัสวตี เทวีแห่งสรรพความรู้ พระนามของพระแม่สรัสวตีนั้นออกเสียงเรียกได้อีกหลายวิธี เช่น พระแม่สรัสวดี พระแม่สุรัสวดี พระแม่สุรัสวตี ฯลฯ

        พระแม่สรัสวตี คือชายาแห่งพระพรหมผู้สร้างโลก พระองค์ประทับอยู่ในวิมาน ณ สวรรค์ชั้นพรหม หรือพรหมโลก เป็นมหาเทวีหนึ่งในสามเทวีสูงสุด ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในประเทศอินเดียยังมีแม่น้ำสายที่สำคัญมากที่ชื่อ สรัสวดี อีกด้วย พระแม่ทรงเป็นธิดาแห่งพระทักษะและนางประสูตร แต่ในมหากาพย์มหาภารตะนั้นมีการกล่าวถึงว่า พระกฤษณะคือผู้สร้างพระสุรัสวตี และคัมภีร์พระเวทขึ้นมาพร้อมกันจากจิตใจของพระองค์ พระแม่สุรัสวตีจึงถือว่าเป็นเทพแห่งพระเวททั้งปวง

        พระแม่สรัสวตี จึงเปรียบเสมือนครู อาจารย์ พระองค์คือเทวีแห่งสรรพความรู้ วิชาการอันล้ำลึก วิทยาการอันก้าวหน้า พระองค์คือสัญลักษณ์แห่งงานศิลปะทุกแขนง ทั้งการวาดเขียน การดนตรี อักษรศาสตร์ การแต่งตำรา การเขียนหนังสือ พระองค์คือเทวีแห่งปรีชาญาณอันชัดเจนแจ่มแจ้ง การเล่าเรียน ศึกษาหาความรู้ การวิจัย การวิเคราะห์ การพูดจา การเจรจาต่อรอง ตลอดจนเป็นผู้ให้กำเนิดอักขระของอินเดีย คือ อักษรเทวนาครี นั่นเอง


พระพรหม


        พระพรหม คือ พระเจ้าผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกคน พระพรหมจึงเป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต เหตุการณ์สำคัญของโลกล้วนอยู่ในสายตาของพระพรหม พระพรหมคือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสามตรีมูรติ ทรงรับฟังคำอธิษฐานของผู้ศรัทธาเสมอ ผู้บูชาพระพรหมและทำความดี จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา พระพรหม มีพระนามหลากหลาย เช่น พระพรหมมา พระพรหมา พระพรหมธาดา ท้าวมหาพรหม ปชาบดี อาทิกวี อาตมภู โลกาธิปดี ฯลฯ กำเนิดของพระพรหมมีมากมายหลายตำรา ถ้าเป็นคัมภีร์ปุราณะของพราหมณ์ฝ่ายพระวิษณุเป็นใหญ่ (ไวษณพนิกาย) จะกล่าวถึง กำเนิดพระพรหม ว่า พระพรหมถือกำเนิดในดอกบัว ซึ่งดอกบัวนี้ผุดขึ้นมาจากพระนาภี (สะดือ) ของพระวิษณุ นั่นหมายถึง พระวิษณุมีมาก่อนทุกสรรพสิ่ง พระองค์ต้องการสร้างโลก จึงให้กำเนิดพระพรหมขึ้นมาเพื่อภารกิจนี้ ถ้าเป็นคัมภีร์ปุราณะของพราหมณ์ฝ่ายพระศิวะเป็นใหญ่ (ไศวะนิกาย) จะกล่าวถึงกำเนิดพระพรหมว่า พระศิวะใช้พระหัตถ์ข้างหนึ่งลูกพระหัตถ์อีกข้างหนึ่ง บังเกิดแสงขึ้นมาในพระหัตถ์ พระพรหมก็ออกมาจากแสงนั้นเอง ด้วยเหตุผลที่พระศิวะต้องการสร้างโลก จึงให้กำเนิดพระพรหมขึ้นมาเพื่อภารกิจนี้ ตำนานนี้พระศิวะจึงเป็นผู้มีมาก่อนทุกสรรพสิ่ง

        พระพรหม เป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ทรงมีอานุภาพในการลิขิตชะตาชีวิต โดยควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎแห่งกรรม พระพรหมจึงเป็นผู้คุ้มครองคนดี และลงโทษผู้กระทำบาป ผู้มีกิเลสตัณหา จะถูกพระพรหมลิขิตให้ชีวิตมีแต่ความลำบากยากเข็ญ ผู้มีจิตใจเอื้ออารีย์ต่อผู้อื่น พระพรหมจะบันดาลให้มีความสุขและสมบูรณ์ในชีวิต การเสียสละต่อส่วนรวมคือการถวายความจงรักภักดีต่อพระพรหม พระพรหมจะบันดาลพรให้ผู้เสียสละนั้นมีแต่ความสุขตลอดกาล


พระแม่ลักษมี


        พระแม่ลักษมี คือเทวีแห่งความงดงาม ความร่ำรวย และความอุดมสมบูรณ์ พระองค์มักประทานความสำเร็จในการประกอบกิจการ การเจรจาต่อรอง การทำมาค้าขาย การประกอบธุรกิจทุกสาขา ตลอดจนประทานโภคทรัพย์ เงินทอง สมบัติ แก่ผู้หมั่นบูชาพระองค์และประกอบความดีอยู่เป็นนิจ

        พระแม่ลักษมี 
มีกำเนิดจากฟองน้ำ ในคราวเทวดาและอสูรกวนเกษียรสมุทร ทำน้ำอมฤต จึงได้นามว่า ชลธิชา (เกิดแต่น้ำ) หรือ กษีราพธิตนยา (ลูกสาวแห่งทะเลน้ำนม) ในขณะที่ผุดขึ้นมานั้นนั่งมาในดอกบัวและมือถือดอกบัวด้วย จึงมีอีกนามหนึ่งว่า ปัทมา หรือ กมลา แต่ในคัมภีร์วิษณุปุราณะจะกล่าวไว้ว่า พระแม่ลักษมีเป็นธิดาของพระฤาษีภฤคุกับนางขยาติ และยังกล่าวต่อไปอีกว่าพระแม่ลักษมีเป็นมารดา พระกามเทพ ด้วย ผู้ศรัทธาจะถือกันว่าพระแม่ลักษมีเป็นเทพนารีผู้อำนวยโชค มีน้ำพระทัยเมตตาปราณีอยู่เป็นนิจ เป็นตัวอย่างแห่งนางที่งามตลอดทั้งรูปและกิริยามารยาท มีวาจาเปี่ยมด้วยเสน่ห์และไพเราะ ทั้งถือกันว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญทุกประการ นับกันว่าเป็นผู้อุปถัมภ์บรรดาสตรีทุกชั้น ส่วนรูปมักเขียนเป็นสตรีที่งามยิ่งมี 2 กรอย่างธรรมดา (บางแห่งก็ว่ามี 4 กร) สีกายเป็นสีทองเสื้อทรงสีเหลือง นั่งหรือยืนบนดอกบัวและมือถือดอกบัว


พระวิษณุ (นารายณ์)


        พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ คือมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นหนึ่งใน 3 มหาเทพสูงสุด อันได้แก่ พระพรหม-พระวิษณุ-พระศิวะ

        พระวิษณุ ทรงมีเทวานุภาพขจัดเหล่ามารและสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง พระองค์ทรงคุ้มครองทุกสรรพชีวิต ทรงบันดาลอำนาจวาสนาแก่มนุษย์ทุกคนที่ระลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ อสูรและเหล่ามารทุกตนล้วนแล้วแต่เกรงกลัวอานุภาพแห่งพระองค์ พระวิษณุยังอวตารไปเป็น พระกฤษณะ (มหาเทพผู้ให้กำเนิดคัมภีร์ภควัทคีตา ในมหากาพย์เรื่องมหาภารตะ) อวตารไปเป็น พระราม (มหาเทพแห่งความยุติธรรม ในมหากาพย์รามายณะ หรือ รามเกียรติ์) และ อวตารไปเป็น พระพุทธเจ้า (ก่อให้เกิดศาสนาพุทธในภายหลัง ตามปุราณะของศาสนาพราหมณ์) พระวิษณุยังอวตารไปเป็นเทพเจ้าองค์อื่นๆ อีกถึง 10 ปาง (หรือ นารายณ์ 10 ปาง) และอวตารมากกว่า 10 ปางในบางปุราณะ เพื่อภารกิจปกป้องโลกมนุษย์จากอสูรชั่วร้าย


        พระวิษณุเทพ มีพระชายาคือ พระแม่ลักษมี พระแม่เจ้าผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ และความผาสุกแก่ผู้ศรัทธา ผู้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างพระวิษณุ และคอยอวตารไปเป็นชายาพระวิษณุในทุกๆภารกิจ

        พระวิษณุ เป็นผู้ประทานแสงสว่างส่องกระจายไปยังทุกสากลโลก ทรงล่วงรู้ความเป็นไปทุกอย่าง ทรงล่วงรู้ความนึกคิดภายในจิตใจของสรรพชีวิต ทรงตัดสินปัญหาด้วยสำนึกอันสูงสุดแห่งพระเป็นเจ้า ทรงขจัดบาปและความขัดข้องแก่ผู้ปฏิบัติโยคะและนั่งสมาธิระลึกถึงพระองค์

        พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ มักปรากฎให้ประจักษ์ในรูปกายอันงดงามที่สุด ฉลองพระองค์ด้วยอาภรณ์สดใส สว่างราวกับทองคำ เรือนร่างประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์อันวิจิตรตระการตา มีความอ่อนโยน ยิ้มแย้มอยู่เสมอ พระองค์โปรดการเอื้อเฟื้อ โปรดการมอบความสุขแก่มวลมนุษย์ พระองค์เป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิฐานและการชนะทุกสิ่ง


พระแม่อุมา


        พระแม่อุมาเทวี หรือ ปารวตี คือพระนามแห่งพระแม่ผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล เป็นเทวีแห่งอำนาจวาสนาและบารมีอันสูงสุด พระองค์ทรงประทานยศถาบรรดาศักดิ์ และความเป็นใหญ่แก่ผู้หมั่นบูชาต่อพระองค์อย่างสม่ำเสมอ..!!! อำนาจแห่งพระแม่อุมานั้น ยิ่งใหญ่หาสิ่งใดเทียบได้ พระองค์ทรงประทานชัยชนะเหนือศัตรู ประทานกำลังวังชาแห่งอิสตรี ทำลายสิ่งชั่วช้า ตลอดจนประทานบริวารและอำนาจในการปกครอง พระองค์ยังทรงประทานพรด้านความสมบูรณ์ ความอิ่มเอม ความผาสุขในการครองเรือน ครอบครัวที่เปี่ยมสุข ตลอดจนการคุ้มครองผู้ศรัทธาให้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง

        พระแม่อุมา ทรงเป็นมารดาแห่ง พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร เป็นชายาแห่งพระศิวะมหาเทพผู้ทำลายโลก 1 ใน 3 แห่ง พระตรีมูรติ พระแม่อุมาจึงเป็น 1 ใน 3 แห่งพระตรีศักติ ด้วย (ตรีศักติ หมายถึง พระแม่ทั้งสาม ได้แก่ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวตี) พระองค์มีวิมานสถิต ณ เขาไกรลาส เช่นเดียวกับพระศิวะเทพ มีสัญลักษณ์ประจำพระองค์คือ โยนี (ฐานรองศิวลึงก์) มีทิพยรูปเป็นหญิงที่งดงาม เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เป็นมารดาแห่งสรรพชีวิตทั้งปวง ฉลองพระองค์ด้วยอาภรณ์หลากสีสัน ประดับด้วยทองคำอย่างวิจิตร


พระศิวะ


        พระศิวะ (คนไทยเรียกว่า พระอิศวร) เป็นบิดาของ พระพิฆเนศและพระขันธกุมาร มีชายาคือพระแม่อุมาเทวี พระศิวะทรงเป็นมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล หนึ่งใน ตรีมูรติ หรือ 3 มหาเทพสูงสุดแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ) พระองค์ทรงประทานพรวิเศษให้แก่ผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรม หากผู้ใดประพฤติเพื่ออุทิศถวายแก่พระองค์แล้วปรารถนาสิ่งวิเศษใดๆ พระองค์ก็จะประทานพรนั้นๆให้ แต่เมื่อได้พรสมปรารถนาแล้ว วันหน้าหากกระทำผิดไปจากความดีงาม ผู้นั้นจะเกิดวิบัติในชีวิต พระศิวะเทพจะเป็นผู้ทำลายทันที!! มีความเชื่อกันว่าพระศิวะนั้นสามารถช่วยปัดเป่ารักษาเยียวยาอากาศเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆได้อย่างมหัศจรรย์นัก!! หากผู้ใดที่เจ็บป่วยหรือต้องการขอพรให้คนในครอบครัวหายเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้ากระทำการบวงสรวงบูชาและขอพรจากพระศิวะ ก็มักปรากฏว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นถูกปัดเป่าให้หายไปได้โดยสิ้นในเร็ววัน

        พระองค์เป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงามเป็นศิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ด้วยเช่นกัน

พระพิฆเนศ


        พระพิฆเนศ เป็นมหาเทพผู้ทรงภูมิปัญญายิ่งใหญ่ ผู้ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสำเร็จในทุกสิ่ง พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าแห่งสากล (Universal God) ที่มีผู้เคารพนับถือมากที่สุดองค์หนึ่งในทั่วโลก ไม่ว่าใน อินเดีย เนปาล ภูฏาน ทิเบต มองโกล จีน ญี่ปุ่น เกาหลี พม่า ไทย เขมร อินโดนีเซีย ฯลฯ พระพิฆเนศ คือเทพเจ้าที่มีปรีชาญาณเฉลียวฉลาด มีฤทธานุภาพมาก และทรงคุณธรรม คอยปราบภัยพาลและอภิบาลคนดี อีกทั้งยังเป็นเทพผู้กตัญญูถึงพร้อมด้วยความดีงามสมควรแก่การสักการบูชาเป็นอย่างยิ่ง หากใครจะประกอบพิธีหรือทำกิจกรรมใด การเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ เช่น เปิดกิจการร้านค้า เริ่มการทำงาน ขึ้นบ้านใหม่ ออกเดินทาง หรือแม้กระทั่งการบวงสรวงทำพิธีมงคลต่างๆ ฯลฯ ต้องบอกกล่าวบูชาองค์พระพิฆเนศก่อนเป็นลำดับแรก จึงจะเป็นสิริมงคลและประสบความสำเร็จ ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ เชื่อกันว่า พระพิฆเนศเป็นโอรสของ พระศิวะ กับ พระศรีมหาอุมาเทวี (พระแม่อุมา) ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เขียนคัมภีร์มหาภารตะ จากวาจาของพระฤษีวยาส และนับถือกันว่า เป็นเทพเจ้าแห่งการรจนาหนังสือ ดุจเดียวกับ พระสุรัสวดี

        พระพิฆเนศ มีกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง อีกชื่อหนึ่งจึงเรียกว่า คชานนท์ มีงาข้างเดียว อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย หูยาน พระวรกายสีแดง สีขาว สีเหลือง ฯลฯ นุ่งห่มภูษาแดง มี ๔ กร ถือบ่วงบาศ ขอสับช้าง และมีเทพศัสตราวุธอีกหลายชนิด ซึ่งได้รับประทานจากพระศิวะ มีพาหนะบริวาร คือ หนู นามว่า มุสิกะ